ทุเรียน
เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ผลไม้ประจำฤดูกาลที่ได้รับความนิยมตลอดกาลในช่วงฤดูกาลนี้ก็คงหนีไม่พ้น ทุเรียน นั่นเอง ทุเรียนได้ชื่อว่าเป็นราชาผลไม้เมืองไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งใครหลายๆคนต่างตั้งตารอที่จะได้กินทุเรียนในช่วงฤดูร้อนกันอย่างสุดๆ โดยทุเรียนนั้นเป็นผลไม้ที่มีราคาค่อนข้างสูงพอสมควร ยิ่งถ้าเป็นทุเรียนที่มีรสชาติอร่อยมากก็จะยิ่งมีราคาที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้ต้องมีการเลือกทุเรียนให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เกร็ดความรู้
เราจะมีวิธีเลือกทุเรียนอย่างไรว่าจะโดนหลอกหรือเปล่า ด้วยความที่ทุเรียนจัดเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเฉพาะตัว ทั้งยังมีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ แม้แต่ทุเรียนที่มีสีเหลืองทองสวยแค่ไหน แต่การเลือกทุเรียนให้ถูกใจนั้นก็เป็นเรื่องยากพอสมควร วันนี้เราจึงนำวิธีเลือกทุเรียน ให้กรอบนอกนุ่มใน แบบไหนสุกหรืออ่อน ดูอย่างไร มาฝากสาวกทุเรียนให้เลือกเป็น เลือกได้ถูกต้องและถูกใจคนกิน ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีวิธีอะไรบ้างลองไปดูกันได้เลย
1.สังเกตก้านผล
วิธีนี้ใช้การจับขั้วของลูกทุเรียน จะรู้สึกได้ว่าแข็งและมีสปริงที่ขั้ว ซึ่งหากเป็นทุเรียนอ่อน จะไม่มีความยืดหยุ่นเกิดขึ้น โดยก้านของทุเรียนที่สุกกำลังกินนั้นจะต้องเป็นสีน้ำตาลเข้ม เมื่อลองเอามือสัมผัสที่ก้านของทุเรียน จะรู้สึกว่ามีความสากมือเหมือนกับการสัมผัสกระดาษทราย สุดท้ายต้องสังเกตจาก บริเวณก้านทุเรียนคือจะต้องยังมีก้านทุเรียนติดอยู่ หากไม่มีก้านอาจแสดงว่าทุเรียนลูกนั้นอาจจะสุกเกินไป จนเละเป็นปลาร้าได้ ถ้าใครไม่ชอบต้องหลีกเลี่ยงทุเรียนแบบที่ก้านหลุดออกไป
2.สังเกตหนาม
เราสามารถตรวจสอบความสุกอ่อนของทุเรียน นั่นก็คือการดูที่ปลายหนามของทุเรียน โดยทุเรียนที่แก่พร้อมกินจะมีปลายหนามที่เป็นสีน้ำตาลเข้ม ปลายหนามต้องมีความแห้ง เมื่อจับดูจะมีความเปราะและหักได้ง่าย หนามทุเรียนต้องค่อนข้างห่างจากกัน ถ้าหนามทุเรียนถ่างกว้าง โดยเฉพาะฐานหนามแสดงว่าทุเรียนลูกนั้นเริ่มสุก พร้อมกินได้แล้ว อีกทั้งถ้าหากเวลาที่บีบหนามเข้าหากัน ตอนปล่อยหนามจะเหมือนมีสปริงเด้งออกจากกัน มีความยืดหยุ่น ก็จะสามารถบ่งบอกได้ว่าทุเรียนลูกนั้นสุกแล้ว
3.สังเกตรอยแยกระหว่างพู
ทุเรียนผลที่สุกพร้อมกิน เนื้อจะเติบโตเต็มที่ ทำให้ร่องพูเห็นได้ชัด ซึ่งร่องพูของทุเรียนนั้นจะต้องมีสีน้ำตาลอมเหลือง ไม่ควรมีร่องรอยการเจาะของแมลงและโรคเกิดขึ้น แต่วิธีนี้ก็จะเกิดปัญหาและไม่สามารถใช้กับทุเรียนพันธ์ก้านยาว เพราะจะไม่ค่อยมีร่องพูให้เห็น จึงจะแยกความสุกอ่อนของทุเรียนพันธ์นี้ด้วยวิธีนี้ได้ จึงต้องทำการใช้วิธีอื่นๆมาแยกความสุกอ่อนของทุเรียนพันธุ์นี้
4.สังเกตดูที่ปลิงทุเรียนหรือรอยต่อของขั้วที่ก้าน
ทุเรียนนั้นจะมีปลิงทุเรียนหรือที่เรียกว่ารอยต่อขั้วที่ก้าน ถ้าเป็นทุเรียนที่แก่จัดบริเวณปากปลิงจะมีลักษณะบวม พองโตขึ้น ทำให้เห็นรอยได้อย่างชัดเจน ถ้าสังเกตแล้วเห็นว่าเริ่มมีรอยแยกอย่างชัดเจน แสดงว่าทุเรียนลูกนี้นั้นเริ่มสุกและสามารถรับประทานได้แล้ว หรือถ้าใครซื้อทุเรียนหรือได้ทุเรียนมาเป็นลูกๆแล้วไม่แน่ใจว่าควรจะแกะออกมาทานตอนไหน ก็จะสามารถจากปลิงของทุเรียนเช่นกัน ถ้า ปากปลิงเริ่มแยก แปลว่าเริ่มกินได้แล้ว ยิ่งแยกมากก็จะยิ่งสุกมาก
5.การเคาะเปลือกหรือกรีดหนาม
วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการที่จะตรวจสอบว่าทุเรียนลูกไหนสุกหรืออ่อน สามารถเช็คและสังเกตได้จากเสียงที่ออกมาจากการเคาะหรือการดีด ใช้นิ้วมือดีดหรือใช้ไม้เคาะที่โคนหนาม ฟังเสียงหลวมๆ ดังก๊อกๆ เนื่องจากทุเรียนสุกจะมีพื้นที่ระหว่างเปลือกกับเนื้อประมาณหนึ่ง เนื้อทุเรียนจะเริ่มร่อนออกมาจากเปลือกด้านใน เมื่อเคาะแล้วจะเป็นเสียงโปร่งๆ หลวมๆเหมือนมีรูโพรงเกิดขึ้นด้านใน ไม่ทึบ แสดงว่าทุเรียนลูกนั้นแก่และสุกแล้ว สามารถพร้อมรับประทานทานได้ โดยเสียงโปร่งๆนี้เกิดจากช่องว่างที่เป็นโพรงในผลทุเรียน อีกทั้งการดีดหรือการเคาะจะสามารถช่วยตรวจสอบทุเรียนทุกพูหลวมเท่ากันจะมีโอกาสเป็นทุเรียนที่สุกสม่ำเสมอ เวลาสุกจะมีเนื้อนิ่มสม่ำเสมอ เนื้อไม่แข็ง
6.สังเกตที่เปลือก
เปลือกทุเรียนที่ดีและควรเลือกซื้อนั้นขอแนะนำว่าจะต้องไม่ใช่เขียว และเปลือกมันจะต้องเริ่มเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ แต่ต้องไม่ใช่สีน้ำตาลเข้มเด็ดขาดหากต้องการความสุกที่พอดีกิน
7. โดยนับอายุผลเป็นจำนวนวันหลังดอกบาน
พันธุ์ชะนี ใช้เวลา 100 – 105 วัน เป็นต้น การนับวันหรืออายุของผลจะแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละปี และในแต่ละท้องถิ่น ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ เช่น ถ้าปีใดมีอุณหภูมิเฉลี่ยค่อนข้างสูง ผลทุเรียนจะแก่เร็วกว่าปีที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า